" ตะโกพริ้ว "
ตะโกพริ้ว ริ้วลิ่ว ล้อเล่นลม อกตรอมตรม ต้องขื่นขมเมื่อ จากไกล ฤทัยหมอง..
จากน้องนาง ตะโกร่วง ดั่งพี่นี้ ต้องถูกช่วง ชิงเธอไป สุดอาลัย โอ้หทัย ที่หมายปอง
ครองคู่เคียง..............
แคร์ฝรั่ง บานสะพรั่ง แลระยับ เป็นเหมือนกับสิ่งหมายเตือน ว่าต้องจาก
ต้องจำพราก (ช) ..... (ต้องจำพราก ( ญ ))
จากนงนุช (ช)......(จากนงนุช (ญ))
* ดวงตะวัน สาดแสงทอง ท้องนภา ทั่วธารา สุกสดใส เฉิดไฉไล ฤทัยภิรมย์
หากโลกขาด แสงสุรีย์ คงระทม อกตรอมตรม ต้องขื่นขม..
จนวันตาย..
เช่นดั่งเรา ขาดคู่เคล้า เคลีย คลอ เฝ้าแต่รอ ว่าเธอนั้น คงเมตตา
มอบกายา มาเคลียคลอ............(ซ้ำ)
เพลงอมตะ ที่ไม่ถูกอนุญาตให้เผยแพร่..ใช้ร้องเพียงโอกาสเดียวเท่านั้น..วันที่เราเป็น 'ถาปัด เต็มตัว..นั่นก้อคือวันที่ผ่านการรับน้อง..เพลงนี้รุ่นพี่ทุกคนจะล้อมวงขับขาน เพื่อต้อนรับน้องใหม่ ที่เพิ่งผ่านการถูกรับใหญ่อัน โหด มันส์ ฮา ตามประสา ' ถาปัด ฟังแล้วในบรรยากาศนั้น รู้สึกขนลุก แบบสุขใจ ..อบอุ่น..
ต้องขออนุญาตรุ่นพี่ทุกคนที่นำออกเผยแพร่ด้วยเกรง..ประเพณีอันดีงามที่พวกเราเคยสร้างกันมา..มันจะลบเลือนหายไป..ถึงวันนี้ไม่รู้ว่า 'ถาปัดรุ่นใหม่จะยังได้ยินอยู่หรือไม่..ด้วยปัจจัยหลายอย่างในปัจจุบัน ทำให้การรับน้องที่อบอุ่นและดีงามของเราเปลี่ยนไป เพราะความคิดการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องของนักศึกษาบางกลุ่มที่ไม่ได้รู้จักประเพณีนี้ดีพอ นำไปปฎิบัติกับรุ่นน้องแบบคึกคะนอง เอาคืน จากที่ตนถูกกระทำ..ทั้งที่น้องใหม่มิได้รู้เห็นกับสิ่งที่รุ่นพี่เคยถูกกระทำจึงกลายเป็นเหยื่อรับอารมณ์ของรุ่นพี่.. ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สังคมลงความเห็นเป็นสิ่งเลวร้าย..กลายเป็นสิ่งต้องห้าม..
อุ๊ย!!! รู้สึกว่าจะดูเครียสเกินไปซะแล้ว..ที่จริงเพียงต้องการขออนุญาต เผยแพร่สำหรับเนื้อเพลงนี้เท่านั้นค่ะ..เพลงนี้ทำให้ชีวิตห้าปีในรั้วตะโกราย กับเพื่อนๆ มีค่า มีความทรงจำร่วมกันมากมาย..เราอยู่ กิน นอน ทำงานร่วมกัน..ทุกเย็นจะมีการเต๊ะบอลเล็กของกลุ่มเพื่อนชาย โดยมีเพื่อนหญิงนั่งเชียร์อยู่ริมสนาม..บางครั้งเปิดตึกเป็นสตูดิโอ เผางาน (เด็ก'ถาปัดทุกคนรู้จักคำนี้) ห้องสี่เหลี่ยมใหญ่ๆ หลายห้องภายในตึก ถูกแบ่งกั้นล็อคด้วยไวท์บอร์ด มีชั้นวางของ..โต๊ะเขียนแบบ ใต้โต๊ะเขียนแบบก้อจะเป็น ที่นอนปิ๊กนิคหรือ กระดาษลัง..แล้วแต่ความถาวรของเจ้าของพื้นที่.. เวลาพักผ่อน ประมาณสามทุ่ม..แต่ละคนก้อจะมีกิจกรรมที่แตกต่าง..เช่น มีมุมกาแฟ มุมอาหาร(พวกมาม่า ปลากะป๋อง ขนมปัง) มุมทีวี มุมคาราโอเกะ..แล้วแต่ความชอบ..นอกจากนั้นเรายังมีมุมสื่อสาร คือ การเล่น ว.วิทยุ(ขโมยพ่อมา) ส่งสัญญาน บนดาดฟ้าตึก..หรือบางวันเบื่ออาหารหลักของสตูดิโอ คนแถวหน้า วิลัยครู หรือ หน้าโคราชาผับ ณ เวลานั้นจะเห็นกลุ่มมอเตอร์ไซด์แต่ไม่กวนเมือง ประมาณสิบกว่าคัน..ขับตามกันไป..กินข้าวต้ม..อาหารจานดึก..
วันไหนมีเรียนเช้า..ในห้องเรียนก้อมักจะมี ซอมบี้..หมีแพนด้า..สารพัด..วันใดเป็นวันส่งงาน..ใต้ตึกห้าจะเงียบผิดปกติ..ด้วยนักศึกษาไม่มาเรียน..(กำลังเผางานกันอย่างเอาเป็นเอาตาย) ..จะคึกคักก้อตอนค่ำๆ นักศึกษามากมาย(ไม่แน่ใจว่าจะเรียกนักศึกษาได้หรือไม่เพราะไม่มีใครใส่ชุดนักศึกษา แต่ส่วนใหญ่มาในชุดนอน ชุดลำลอง..หรือกางเกงขาก๊วยเท่านั้น..
และหลังจากวันนั้นอีกสองวันนักศึกษาจะร่อยหรอมาก..เพราะเป็นวันพักผ่อน.. วงจรชีวิตเป็นเช่นนี้ตลอดห้าปีที่ตะโกราย..แต่เป็นชีวิตที่สนุกสนานมาก..เราไปไหนไปกันเป็นกลุ่ม..ไม่มีวางแผนอะไรล่วงหน้ามากมายนัก..เช่น...นั่งคุยกันอยู่ดีๆ อยากไปเที่ยวกางเต๊นท์ นั่งคิดหาสถานที่ ออกความคิดเห็นกันไปเรื่อย..จนหาข้อสรุปได้ว่าจะไปเขาใหญ่ เป็นเวลาเกือบตีหนึ่ง..แยกย้ายไปจัดเตรียมสัมภาระให้เวลา หนึ่งชั่วโมง..ออกเดินทางคืนนั้นเลย..ไปรอขึ้นเขาใหญ่ประมาณตีห้า..มอ'ไซด์สามคน คนหกคน..ตะลอน..แต่ทริปบังเอิญครั้งนี้กลับสร้างตำนานรักอันยิ่งใหญ่ให้หนุ่มสาวคู่หนึ่งถึงเข้าประตูวิวาห์ในเวลาถัดมา..ตอนนี้มีพยานรักเป็นที่เรียบร้อย...
วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553
ห้าปีที่รั้ว"ตะโกราย"
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
คิดถึงถาปัตโคราชคับ มีรูปอาจารย์ผมด้วยอิอิ
ตอบลบต้นกล้า
ใครคะื อย่าบอกนะว่าเป็นลูกศิษย์ อ.ดุลย์ ๕๕
ลบดูๆหน้าตาโบๆแบบนี้น่าจะเป็นรุ่นน้องรุ่นพี่กันอยู่แต่ที่แน่ๆก็ตะโกรายเดียวกันแหละ บังเอญเข้ามาเปิดเจอเพราะอยากฟังเพลงถาบันเก่าๆตั้แต่ยังไม่เป็นมะหาลัยนะถ้ามีครบก็แบ่งมาหน่อย จบมาปีไหนบอกได้เปล่า แต่ลืมบอกไปว่าไม่ได้เรียนถาปัดเน้อแต่เป็นตึกใกล้ๆ บริหารน่ะมี meeting 12-13 พย.นี้ที่มวกเหล็ก 22 กย.2554
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ลบจบ ปี 38 ค่ะ
ลบใครเอ่ย
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบเจ๊ต๋อย มีรูปนกบ้างปะเจ๊
ตอบลบจารย์ ดุลย์ ที่ปรึกษา ทีสิส ผมเองครับ
ตอบลบ