วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วันวาน..เราชาวอนุรักษ์

เราชาวอนุรักษ์ ร่วมใจพิทักษ์ลำเนา...

..ยังจำประโยคนี้ได้หรือไม่...หากคุณเป็นหนึ่งในชมรมอนุรักษ์เทคโนโคราช คงจะคุ้นเคยกับประโยคนี้
เป็นท่อนหนึ่งในเพลง มาร์ช ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เทคโนโคราช ซึ่งแต่งโดย นายชัชนรินทร์ อ่อนราษฎร์ ประธานชมรมอนุรักษ์ รุ่น 4 เด็กศิลปกรรมหน้าตาดี (ชั้นโกหกแก) เพื่อนผู้ซึ่งมีความทรงจำร่วมกันมากมายในวันวาน..






ชมรมอนุรักษ์ในสมัยนั้น ยังยึดพื้นที่ห้องเล็กๆ หน้า"คุรุสัมนาคาร สถานที่เรามารวมกัน" ( อันนี้เป็นอีกท่อนของเพลงในวันวานของอนุรักษ์ แต่งโดย นายเชิดชาย สิงห์สุข) เป็นฐานทัพ ด้วยสมาชิกยังไม่มากมายนัก..


ในเวลาต่อมา ทางสถาบันก็จัดพื้นที่ตั้งฐานทัพเพิ่มให้เราอีกที่คือ ศูนย์ฝึกภาคสนาม หนองระเวียง..ที่นั่น เรายึดบ้านพักหนึ่งหลังไว้เป็นสถานที่รวมพล..หน้าบ้าน จำได้ว่า แมงเม่าไปสำรวจป่าในหนองระเวียงแล้วนำเอา ต้นงิ้วมาปลูกไว้ให้ที่บันไดทางขึ้นสองต้นหลังบ้านมีต้นมะขามป้อม...ภายในบ้านเรามีอุปกรณ์ทำครัวด้วย..คือหม้อหุงข้าวไฟฟ้า 1 หม้อ สารพัดประโยชน์ ทั้งหุงข้าวสวย เสร็จก้อใช้เป็นหม้อต้มยำทำแกง จากนั้นตามด้วยไข่เจียวหม้อ..บางวันแอ๊บแอ๊บไปเดินป่า หากะปอม(กิ้งก่า)มาลาบให้เพื่อนๆกิน..นึกถึงแล้วก็สงสารตัวเองนะ..กว่าจะได้รับประทานอาหารหนึ่งมื้อคิดดูสิว่าต้องรอนานแค่ไหน..ไม่สามารถลัดขั้นตอนได้เลย..เพราะอุปกรณ์ภาคบังคับ..มีหม้อใบเดียว.. มอเตอร์ไซด์ฮ่าง หนึ่งคัน สำหรับออกไปจับจ่าย ในหมู่บ้านใกล้ๆ รวมทั้งไปเรียนบ้างเป็นบางครั้ง..ที่นั่นเป็นทั้งบ้านพัก สถานทีตากอากาศ ห้องอัด(งงล่ะสิ) พวกเราใช้สำนักงานของ ศูนย์ฝึกช่วงกลางคืนอันเงียบสงบ อัดเพลงสำหรับที่จะเปิดในค่ายเด็ก (ค่ายเด็กรักษ์ป่าหนองระเวียง) วิทยุเทป 1 เครื่อง(สมัยนั้นแค่นี้ก็หรูแล้ว) กีต้าร์ 1 ตัว นักดนตรีคือ แมงเม่า นักร้อง ก็ประสานเสียง โดย พวกเราเองก็มี แขก เปิ้ล แต้ม นาถ ปุ๊..ส่วนนักร้องหญิงจะเป็นใครไปไม่ได้..นู๋ต๋อยเองคับ..ถ้าสามารถเอาเทปนั้นมันทำเป็น mp3 ได้เมื่อไหร่ จะโหลดไว้ให้เพื่อนๆ ได้รำลึกความหลังกันนะคะ..
นอกจาก วันวาน ที่นี่ อนุรักษ์เรายังมีอีก วันวานอีกที่..ซึ่งยังอยู่ในความทรงจำของพวกเรา...ไม่เคยลืม

เขาแผงม้า..ที่ซึ่งเราชาวอนุรักษ์ใช้เป็นสถานที่ปลูกจิตสำนึก ของเด็ก "ต้นกล้า" บริเวณหมู่บ้านโดยรอบของพื้นที่ โดยผ่านโครงการ ค่ายเด็กรักษ์ป่า..


สมัยนั้นเป็นเพียงโครงการปลูกป่า พื้นที่รอยต่ออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ของ มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชในพระบรมราชินูปถัมภ์ ยังไม่มีความศิวิไลท์ใดใดทั้งสิ้น...




ยังจำได้ถึงความรู้สึก วันแรกที่เดินทางไป"คลองทราย" .. 'อ๊อบแอ๊บ' และ 'บักเจมส์' เพื่อนผู้ซึ่งคุ้นเคยที่นั่นก่อนเรา..พูดถึงบ่อยมาก "คลองทราย"เป็นยังงัย ทำไมคนที่ได้ไปเหมือนต้องมนต์ อยากรู้..และอยากไปเห็น..


จำได้ว่าวันนั้นเราเดินทาง ขึ้นรถบัส เที่ยวหกทุ่ม..ไปถึง กม 79 ปากทางเข้าเขาแผงม้าประมาณ ตี1 แนวร่วม 5 คน ต๋อย ปุ๊ ตี๋ รวง และ อ๊อบแอ๊บผู้นำทาง ..เดินเท้าบนถนนลูกรัง ฝุ่่นแดง ประมาณ 20 กิโลเมตร..ในที่สุด ..เกือบตีสี่ เจ้าถิ่นบอกเราว่าถึงแล้ว..เรามองไปไม่เห็นอะไรเลยที่จะบอกว่าเรามาถึงแล้ว นอกจาก ป่าไผ่ท่ามกลางแสงดาว...

..เมื่อเราเดินเข้าป่าไผ่นั้นไป ก้อมีเงาของสถานที่..เหมือนบ้านตะคุ่มๆ มีแสงเทียนใกล้เข้ามาหลังจากที่เราตะโกนเรียกเจ้าของพื้นที่สักพัก..ผู้ชายหนึ่งคนเดินถือเทียนออกมาบอกว่าวันนี้ไฟดับ(แหมมาได้ตรงวันจริงๆนะเราเนี่ย)..และพาเราทั้งหมดไปหาที่พัก..ซึ่งปีนบันไดลิงขึ้นไป..

เช้าของวันใหม่..คือวันที่ตื่นตาตื่นใจมาก พบว่าตัวเองนอนอยู่บนห้องใต้หลังคา..เราปีนบันไดลงมา..ใด้ยินเสียงเพลง"บ้านกลางไพร ประสาป่าดอย ความสุขเล็กน้อย แต่ดูยิ่งใหญ่ ..." ของ อ้น ธวัชชัย ชูเหมือน แว่วมา เราเดินตามเสียงเพลงไป..พบกับพี่ชายใจดีคนหนึ่ง(ซึ่งต่อมากลายเป็นพี่ชายร่วมอุดมการณ์ที่เราไม่เคยลืม) "พี่หน่อง"เจ้าหน้าที่ศูนย์ กำลังง่วนอยู่กับ โมเดล ของพื้นที่ป่าเขาแผงม้า..

แต่ที่น่าตื่นตาตื่นใจกว่าคือ..เมื่อออกมาสู่บรรยากาศภายนอก เรามองเห็น บ้านไม้ซีกสไตล์คันทรี ตั้งตะหง่าน เลยไปเป็นหน้าผาที่เรามองออกไปมีแต่หมอก..ทำให้เรารู้สึกได้ว่าเรายืนอยู่บนหมอกขาวโพลนไปหมด...หลงรักคลองทราย...

จากวันนั้นเป็นต้นมา ศูนย์คลองทราย..ซึ่งเป็นสำนักงานของเขาแผงม้า ยุคแรก..ก้อมีสมาชิกประจำเพิ่มอีกสองคน..


เราชาวอนุรักษ์ทำงานร่วมกับมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าฯ ที่เขาแผงม้า หลายรุ่นหลายสมัย




เส้นทางที่เข้าไปสู่แผงม้า เวลาดึก.. เราเดิน....ไม่มีความรู้สึกหวาดกลัว..มีเพียงความรู้สึกคุ้นเคย..




เสียงดุๆ ของน้าเบิ้ม ตอนที่เราเสียงดัง ในเวลาหลังสามทุ่มที่อยู่ในบรรยากาศมืดสนิทและเงียบสงัด ปราศจากเสียงเครื่องปั่นไฟ! และ ส้มตำอันแสนอร่อยจากโรงครัวที่มีให้เราทุกวัน..อยู่ในความทรงจำเสมอ..โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกมากผู้ใจดี..ที่เอื้ออาทรกะเราทุกๆเรื่อง...ขอบคุณมากมาย...




แม้เมื่อเราจะจบการศึกษาเราก้ออำลากันที่นั่น..

หากบังเอิญพี่โชค(คุณโชคดี ปรโลกานนท์) อ่านเจอบทความนี้ อาจยังจำพวกเราได้.. รวมถึงอาจจะจำเด็กนักศึกษาหญิงมาดเซอร์ๆ สองคนที่ยึดศูนย์คลองทรายเป็นที่ตั้ง และ ยึดล็อคแรกของเรือนนอน..กลางหุบ..ของแผงม้า..เป็นที่พำนัก..เราอยากจะบอกว่า พวกเรายังไม่ลืมแผงม้า..และกำลังจะกลับไปรำลึกความหลังที่นั่น...

เพื่อนๆ "เดอะแก๊งค์"อนุรักษ์รุ่น 5 และ รุ่นพี่รุ่นน้องที่เคยร่วมเดินทางช่วงเวลาเดียวกัน..อยากให้ทุกคนไปร่วมรำลึกความหลังด้วยกันที่เขาแผงม้า...เจอกัน 23-24 ตุลาคม 2553 นี้นะคะ ประชาสัมพันธ์ต่อให้ด้วยนะคะ..และฝากข้อความไว้ที่ blogได้เลย...







กลับไปเฮอาหน้าบ้านเดอะแก๊งค์.....

6 ความคิดเห็น:

  1. สวัสดีน้องๆและเพื่อนทุกคนกับเราชาวอนุรักษ์เทคโนโคราชพี่หน่อง

    ตอบลบ
  2. ตัวอย่างที่ดีมีให้เห็น ตัวอย่างที่ดีมีให้เป็น (คนดี) ตัวอย่างที่ยิ่งใหญ่ คือชนะใจตัวเอง

    ตอบลบ
  3. คิดถึงพี่น้องทุกคนเลย จากคนจร หน่องครับ

    ตอบลบ
  4. นัดมาเจอกัน แบบ ฮา ฮา กันสักครั้งเนาะ...
    ใครมีลูกจูงลูง ใครมีสามีจูงสามี ใครมีภรรยาจูงภรรยา
    ใครมีกิ๊กหน้าตาไม่ดีอย่าจูงมาอายเค้า...
    เนาะ...วันไหนดี นัดเลย
    พี่ตุ๊กตา

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ16 สิงหาคม 2553 เวลา 21:37

    อิอิอิอิอิอิ
    น้องเต๋า อน. 14 รายงานตัว
    ขอคาราวะพี่ๆ เก่า ๆ ทุกคนนะคะ
    เรื่องรวมตัวที่เขาแผงม้า เต๋ากระจายข่าวให้กับรุ่น นับจาก 12-20 ให้แล้วนะคะ ส่วนรุ่นที่นอกเหนือจากนี้ ฝากีพี่ ๆ ด้วยคะ

    พี่ตุ๊กตา กิ๊กหน้าตาไม่ดีแต่จริงใจ ควงไปด้วยได้ไหม ห้าห้าห้า

    ตอบลบ
  6. โห..ถึงรุ่น 20 แล้วหรอเนี่ยยยย...ทำไมเรายังดูสาวสวยอยู่เลย..ใช่มั้ยพี่ตุ๊กตา...

    ตอบลบ

ผ่านมาอ่านแล้วก้ออย่าลืมเม้นท์สร้างสีสรรด้วยนะคะ..เดี๋ยวคนเขียนจะเหงา..5555+++